Early Human Migration/การอพยพของมนุษย์ในยุคแรก

People Move Out of Africa
During the Old Stone Age, climate patterns around the world changed, transforming the earths geography. In response to these changes, people began to migrate, or move, to new places.

The Ice Ages
Most scientists believe that about 1.6 million years ago, many places around the world began to experience long periods of freezing weather. These freezing times are called the ice ages. The ice ages ended about 10,000 years ago. During the ice ages huge sheets of ice covered much of the earths land. These ice sheets were formed from ocean water, leaving ocean levels lower than they are now. Many areas that are now underwater were dry land then. For example, a narrow body of water now separates Asia and North America. But scientists think that during the ice ages, the ocean level dropped and exposed a land bridge, a strip of land connecting two continents. Land bridges allowed Stone Age peoples to migrate around the world.

ผู้คนอพยพออกจากทวีปแอฟริกา
            ในช่วงยุคหินเก่า รูปแบบบรรยากาศรอบ ๆ โลกได้เปลี่ยนแปลงไป ทำให้มีการเปลี่ยนสภาภูมิอากาศของโลก ผลอันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงนี้ ผู้คนจึงเริ่มอพยพไปยังที่ใหม่

ยุคน้ำแข็ง
            นักวิทยาศาสตร์ส่วนมากเชื่อว่า ประมาณ 1.6 ล้านปีที่ผ่านมา หลายที่ทั่วโลกเริ่มประสบกับช่วงที่อากาศเย็นยะเยือกยาวนาน ช่วงที่อากาศเย็นยะเยือกนี้ เรียกว่า ยุคน้ำแข็ง ยุคน้ำแข็งสิ้นสุดประมาณ 10,000 ปีที่ผ่านมา ในช่วงยุคน้ำแข็งนี้มีแผ่นน้ำแข็งแผ่นมหึมาปกคลุมไปทั่วพื้นโลก แผ่นน้ำแข็งเหล่านี้เกิดมาจากน้ำในมหาสมุทร ทำให้ระดับน้ำในมหาสมุทรต่ำกว่าในปัจจุบัน (เพราะกลายเป็นน้ำแข็งเกือบหมด) บริเวณหลายแห่งที่ปัจจุบันอยู่ใต้น้ำก็เป็นแผ่นดินที่แห้งแล้งอยู่ในเวลานั้น ยกตัวอย่างเช่น  บริเวณช่องแคบที่ปัจจุบันนี้แยกทวีปเอเชียและทวีปอเมริกาเหนือออกจากกัน แต่นักวิทยาศาสตร์คิดว่า ในยุคน้ำแข็ง ระดับน้ำในมหาสมุทรลดลงและปรากฏเป็นสะพานแผ่นดิน (land bridge) ซึ่งริ้วแผ่นดินเชื่อมสองทวีปเข้าด้วยกัน  สะพานแผ่นดินทำให้ผู้คนในยุคน้ำแข็งอพยพไปรอบโลกได้

ผู้คนอพยพออกจากทวีปแอฟริกา


Settling New Lands
          Scientists agree that migration around the world took hundreds of thousands of years. Early hominids, the ancestors of modern humans, migrated from Africa to Asia as early as 2 million years ago. From there, they spread to Southeast Asia and Europe.


          Later, humans also began to migrate around the world, and earlier hominids died out. Look at the map to see the dates and routes of early human migration.

            Humans began to migrate from East Africa to southern Africa and southwestern Asia around 100,000 years ago. From there, people moved east across southern Asia. They could then migrate to Australia. Scientists are not sure exactly how the first people reached Australia. Even though ocean levels were lower then, there was always open sea between Asia and Australia.

           


          From southwestern Asia, humans also migrated north into Europe. Geographic features such as high mountains and cold temperatures delayed migration northward into northern Asia. Eventually, however, people from both Europe and southern Asia moved into that region.

          From northern Asia, people moved into North America. Scientists disagree on when and how the first people arrived in North America. Most scholars think people must have crossed a land bridge from Asia to North America. Once in North America, these people moved south, following herds of animals and settling South America. By 9000 BC, humans lived on all continents of the world except Antarctica.



การตั้งหลักแหล่งบนแผ่นดินแห่งใหม่
            นักวิทยาศาสตร์เห็นพ้องต้องกันว่า การอพยพไปรอบโลกกินเวลาหลายแสนปี มนุษย์โฮมินิดยุคแรก ซึ่งเป็นบรรพบุรุษของมนุษย์สมัยใหม่ ได้อพยพออกจากทวีปแอฟริกาไปยังทวีปเอเชียเริ่มแรกประมาณ 2 ล้านปีที่ผ่านมา จากทวีปเอเชีย ก็กระจายไปยังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และทวีปยุโรป

          ต่อมา มนุษย์ก็เริ่มอพยพไปทั่วโลก และมนุษย์โฮมินิดยุคแรกก็สาบสูญไป ให้มองดูแผนที่เพื่อดูเวลาและเส้นทางการอพยพของมนุษย์ยุคแรก

         มนุษย์เริ่มอพยพออกจากทวีปแอฟริกาด้านตะวันออกไปยังแอฟริการใต้และเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ ประมาณ 100,000 ปีที่ผ่านมา ต่อจากนั้น ผู้คนก็อพยพไปทางทิศตะวันออกข้ามทวีปเอเชียด้านทิศใต้ ครั้นแล้วก็สามารถอพยพไปยังทวีปออสเตรเลีย นักวิทยาศาสตร์ไม่แน่ใจอย่างแท้จริงว่าผู้คนยุคแรกเดินทางมาถึงทวีปออสเตรเลียเมื่อไร แม้ว่าระดับน้ำทะเลจะอยู่ต่ำในเวลานั้น ปกติแล้วก็มีทะเลเปิด (open sea – คือท้องทะเลที่กว้างใหญ่ที่ไม่มีแผ่นดินล้อมรอบ เทียบกับทะเลปิด คือ ทะเลที่มีแผ่นดินล้อมรอบ เช่น ทะเลแคสเปียน ฯลฯ ในที่นี้หมายถึง มหาสมุทรแปซิฟิก) ระหว่างทวีปเอเชียและทวีปออสเตรเลีย

          จากทวีปเอเชียด้านตะวันตกเฉียงใต้ มนุษย์ก็ยังอพยพไปทางทิศเหนือสู่ทวีปยุโรป ลักษณะภูมิประเทศ เช่น ภูเขาสูงและอุณหภูมิเย็นได้ชะลอการอพยพไปทางทิศเหนือสู่ทวีปเอเชียตอนเหนือ



          จากทวีปเอเชียตอนเหนือ ผู้คนก็อพยพไปสู่ทวีปอเมริกาเหนือ นักวิทยาศาสตร์ยังมีความเห็นไม่พ้องกันว่าผู้คนยุคแรกที่เดินทางไปสู่ทวีปอเมริกาเหนือเมื่อไรและด้วยวิธีใด นักวิชาการส่วนใหญ่คิดว่า ผู้คนจะต้องข้ามสะพานแผ่นดินจากทวีปเอเชียไปยังทวีปอเมริกาเหนือ  เมื่ออยู่ในทวีปอเมริกาเหนือ คนเหล่านี้ก็อพยพไปทางใต้ ด้วยการเลี้ยงปศุสัตว์และตั้งหลักแหล่งในทวีปอเมริกาใต้ ประมาณ 9000 ปีก่อนคริสตกาล มนุษย์อาศัยอยู่ทั่วทุกทวีปในโลก ยกเว้นทวีปแอนตาร์กติกา

บ้านแมมมอธ

People Adapt to New Environments
As early people moved to new lands, they found environments that differed greatly from those in East Africa. Many places were much colder and had strange plants and animals. Early people had to learn to adapt to their new environments.

Clothing and Shelter
          Although fire helped keep people warm in very cold areas, people needed more protection. To keep warm, they learned to sew animal skins together to make clothing.

          In addition to clothing, people needed shelter to survive. At first they took shelter in caves. When they moved to areas with no caves, they built their own shelters. The first human-made shelters were called pit houses. They were pits in the ground with roofs of branches and leaves.

           
Later, people began to build homes above the ground. Some lived in tents made of animal skins. Others built more permanent structures of wood, stone, clay, or other materials. Even bones from large animals such as mammoths were used in building shelters.

New Tools and Technologies
People also adapted to new environments with new types of tools. These tools were smaller and more complex than tools from the Old Stone Age. They defined the Mesolithic Era, or the Middle Stone Age. This period began more than 10,000 years ago and lasted to about 5,000 years ago in some places.

During the Middle Stone Age, people found new uses for bone and stone tools. People who lived near water invented hooks and fishing spears. Other groups invented the bow and arrow.

In addition to tools, people developed new technologies to improve their lives. For example, some learned to make canoes by hollowing out logs. They used the canoes to travel on rivers and lakes. They also began to make pottery. The first pets may also have appeared at this time. People kept dogs to help them hunt and for protection. Developments like these, in addition to clothing and shelter, allowed people to adapt to new environments.

ผู้คนปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมใหม่ ๆ
            ในขณะที่ผู้คนในยุคแรกอพยพไปยังดินแดนใหม่ ๆ ก็ได้ค้นพบสิ่งแวดล้อมที่แตกต่างกันกับทวีปแอฟริกาตะวันออกเป็นอย่างมาก สถานที่หลายแห่งเย็นมากขึ้นและมีพืชและสัตว์ที่ผิดแผกกัน ผู้คนยุคแรกต้องเรียนรู้ในการปรับตัวเข้าสิ่งแวดล้อมใหม่ ๆ

เครื่องนุ่งห่มและที่อยู่อาศัย
            แม้ว่าไฟจะช่วยให้ผู้คนเกิดความอบอุ่นในบริเวณที่มีความหนาวเย็น ผู้คนก็ต้องการการปกป้องเพิ่มมากขึ้น พวกเขามีการเรียนรู้ในการเย็บหนังสัตว์เข้าด้วยกันเพื่อทำเป็นเครื่องนุ่งห่มเพื่อรักษาความอบอุ่น

          นอกจากเครื่องนุ่งห่มแล้ว ผู้คนก็ต้องการที่อยู่อาศัยเพื่อให้ชีวิตอยู่รอด เริ่มแรกพวกเขาก็อาศัยอยู่ในถ้ำ ในขณะที่พวกเขาอพยพไปยังบริเวณที่ไม่มีถ้ำ พวกเขาก็สร้างที่อยู่อาศัยของตนเอง ที่อยู่อาศัยที่มนุษย์สร้างขึ้นครั้งแรก เรียกว่า pit house (คือที่อยู่อาศัยที่ขุดลงไปในพื้นดินแล้วเอากิ่งไม้และใบไม้มุงหลังคา) ที่อยู่อาศัยเหล่านั้นคือหลุมใต้พื้นดินที่มีหลังคาเป็นกิ่งไม้และใบไม้

          ต่อมา ผู้คนก็เริ่มสร้างที่อยู่อาศัยบนพื้นดิน บางพวกก็อาศัยในกระโจมที่ทำจากหนังสัตว์ พวกอื่น ๆ สร้างสิ่งก่อสร้างที่มั่นคงมากขึ้น จากไม้ หิน และดินเหนียว หรือวัสดุอื่น ๆ แม้กระดูกจากสัตว์ใหญ่ เช่น แมมมอธ ก็ใช้สร้างที่อยู่อาศัยเช่นกัน

เครื่องมือและเทคโนโลยีชนิดใหม่
            ผู้คนยังปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมใหม่ ๆ ด้วยการใช้เครื่องมือชนิดใหม่ เครื่องมือเหล่านี้เล็กกว่าและสลับซับซ้อนมากกว่าเครื่องมือในยุคหินเก่า พวกเขาได้กำหนดยุคนั้นว่า เมโสลิทิก (Mesolithic Era) หรือยุคหินกลาง ยุคนี้เริ่มขึ้นในช่วงเวลามากกว่า 10,000 ปีที่ผ่านมาและดำรงอยู่ประมาณ 5,000 ปีที่ผ่านมาในสถานที่บางแห่ง

          ในช่วงยุคหินกลาง มนุษย์ได้ค้นพบเครื่องมือชนิดใหม่ คือ การใช้กระดูกและเครื่องมือหิน มนุษย์ที่อาศัยอยู่ใกล้น้ำก็ประดิษฐ์เบ็ดและใช้หลาวแทงปลา อีกกลุ่มหนึ่งก็ประดิษฐ์คันธนูและลูกธนู

          นอกจากเครื่องมือแล้ว มนุษย์ก็ได้พัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ ในการปรับปรุงความเป็นอยู่ เช่น บางพวกก็เรียนรู้ในการสร้างเรือแคนู ด้วยการขุดท่อนไม้ให้เป็นโพรง พวกเขาใช้เรือแคนูสัญจรไปบนแม่น้ำและทะเลสาบ และเริ่มทำเครื่องปั้นดินเผาด้วย สัตว์เลี้ยงตัวแรกก็เกิดขึ้นในยุคนี้ มนุษย์ได้เก็บสุนัขมาช่วยล่าสัตว์และปกป้องตนเอง การพัฒนาที่ผ่านมานี้ นอกเหนือจากเครื่องนุ่งห่มและที่อยู่อาศัยแล้ว ทำให้มนุษย์ปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมใหม่ ๆ ได้